วันพุธที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2559

การเลือกเครื่องอัดเสียงที่มีคุณภาพ และ การใช้งานตลอดจนการดูแลรักษา







ว่าเมื่อไปถึงแล้วเขียนข่าวแล้วก็รีบออกมาหาอาหารกลางวัน ซึ่งแถวนั้นหาได้ง่าย เพื่อจะได้เตรียมออกตระเวนในเวลาบ่าย ภายในสำนักงานนั้นคึกคักไม่น้อยเลย คุณทนงและคุณพูนศิลป็และใครต่อใครมากันพร้อมหน้าทีเดียวผมไม่ได้เล่าหรือข้ามไปนิดหนึ่งก็คือ ห้องโถงชั้นบนอันเป็นห้องกองบรรณาธิการนี้มีโต๊ะยาวตั้งอยู่กลางห้อง นักข่าวจะใช้โต๊ะนี้เขียนข่าวทางสำนักงานมีกระดาษที่ตัดขนาด เอ sr วางเอาไว้ ทุกคนจะใช้ดินสอเขียนข่าว ฉะนั้น จะมี “กบ” เหลาดินสอตั้งล็อกเอาไว้ที,โต๊ะนี้และโต๊ะทำงานของคนที่ต้องมีโต๊ะนั่งอีกบางคนผมรื้อลิ้นชักความทรงจำออกมาในช่วงเวลานี้อันเป็นช่วงเวลาที่“นักข่าว” มีอุปกรณ์จะเรียกว่าให้ความสะดวกต่อการทำงานอย่างมากอย่างแรกคือ ไมค์อัดเสียง  กล้องถ่ายภาพที่ผมบอกถึงรายละเอียดไว้บ้างแล้ว ประการต่อมาก็คือไม่มีเครื่องเทปอัดเสียง ไม่มีโทรคัพท์หรือที่เรียกว่า “โมบาย”ประจำตัวที่พร้อมจะติดต่อกับใครหรือที่สำคัญกับทางสำนักงานได้สะดวกแถมกังมีวิทยุพิเศษที่สามารถจะรู้ว่า เกิดเหตุอาชญากรรมในท้องที่ใดหรือแม้แต่การประสานงานกับหน่วยวิทยุของกองบัญชาการตำรวจนครบาลลองติดตามหรือดูลิ้นชักความทรงจำของผมที่จะพาไปพบกับการทำงานที่มีความแผกผิดจากปัจจุบันไม่น้อยทีเดียวกล้บไปหาการตระเวนภาคบ่ายในวันดีเดย์ต่อไป ถ้าจำไม่ผิดดูเหมือนเราได้พบรถตระเวนข่าวของ “นักข่าวพิมพ์ไทย” ที่หน้าสถานีตำรวจพญาไท เป็นรถจี๊ปเหมือนกัน บนรถมีคนเต็มดูเหมือนจะถึงหกคนเสียด้วยช้ำไป ต่างฝ่ายต่างมองกัน ตำรวจที่เป็นสิบเวรที่นั่นเห็นเราเดินขึ้นโรงพักจะทักว่า โปรแกรมอัดเสียง  “พิมพ์ไทยเพิ่งไปเมื่อกี้”

“แล้วมีข่าวอะไรหรือเปล่าครับ” ผมถือโอกาสถามเอาดื้อๆ สิบเวร  ผู้นั้นส่ายหน้า ผมเร่เข้าไปที่โต๊ะเสมียนเวรซึ่งอยู่ต่อจากโต๊ะสิบเวร ผมรีบยกมือไหว้และแนะนำตัวเมื่อเห็นเสมียนเวรจับตามอง แล้วผมก็เห็นการส่ายหน้าเหมือนกัน มันคงไม่มีข่าวจริงๆ ก็ได้ หรืออาจจะมีแต่เราไม่สามารถรู้ก็'ได้ ลองคิดดูว่าจากเมื่อคืนจนเช้าและมาถึงบ่าย ไม่มีข่าวเกิดขึ้นสักข่าวหนึ่งเชียวหรือ?เราตระเวนต่อไป จากพญาไทแล้วไปดุสิตซึ่งมักจะไม่ค่อยมีข่าวจากนั้นก็จะแวะเข้าสามเสนแล้วตรงดิ่งมาที่ชนะสงคราม ที่นึ่มีสารวัตรและรองสารวัตรที่อยู่ข้างค่อนข้างใจดี โอภาปราศรัยด้วยความยิ้มแย้มผู้เป็นสารวัตรคือคุณจ0ารัส มังคลารัตน์ ยศขณะนั้นน่าจะเป็น พ.ต.ต. ส่วนรองสารวัตรคือคุณเสมอ  เครื่องอัดเสียงดิจิตอล ดามาพงต์ ผู้ชึ่งมีบุตรเขยเป็นนายตำรวจเหมือนกันดำรงยศถึง พ.ต.ท. แล้วลาออกมาดำเนินการธุรกิจเป็นพัน-เป็นหมื่นล้าน แถมยังเป็นนายกรัฐมนตรีเสียอีก...ครับ, คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรนั้นเอง นายตำรวจทั้งสองแห่งชนะสงครามทำคดีสำคัญเอาไว้เป็นที่ฮือฮาไม่น้อยเลย เอาไว้ถึงตรงนั้นค่อยเติมรายละเอียดให้มากขึ้นเท่าที่ความทรงจำจะพอรื้อค้นได้จากชนะสง.ครามเราจะเลี้ยวลงมาที่นางเลิ้ง เป็นสถานีที่ว่ากันว่าเป็นท้องที่มีอาชญากรรม1ไม่น้อย คือมีทั้งเรื่องชนิดที่เราเรียกกันเองว่า“ตีหัวหมา-ด่าแม่เจ๊ก” ไปจนถึงฆาตกรรม เนื่องจากเป็นแหล่งของนักเลงหัวไม้ เป็นแหล่งมั่วสุมของคนติดยา ('ฝืน) เป็นที่หลบซ่อนของ “มือปีน” เครื่องบันทึกเสียงประชุม เดินเข้านางเลี้งสิบครั้งจะไม่มืข่าวเพียงสองครั้งเป็นอย่างมาก อาศัยที่ตีสนิทกับนายตำรวจคนหนึ่งที่จะเห็นหน้าทุกวันแม้จะไม่ได้เข้าเวรกลางวันก็จะพบในตอนบ่ายเสมอ “เป็นรองสารวัตรที่ขยันมาก” ตำรวจที่นั้นบอก นายตำรวจผู้นี้คือคุณมนต์ชัย พันธุคงชื่น มั่นเองความทรงจำของผมหายไป ไปรื้อค้นที่หอสมุดแห่งชาติก็พบว่า

ตั้งแต่ ๒ร: มิถุนายน ๒ร:๙๓ ไปจนถึงสิ้นเดือน หนังสือพิมพ์เดลิเมล์รายวันไม่มี แต่เริ่มต้นของแฟ้มที่เก็บคือตั้งแต่วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒ร:๙๓ เป็นต้นไป ขออนุญาตโมเมเอาเลยว่า จึงไม่มีทางรื้อความทรงจำมาเล่าให้ฟัง...แต่ความทรงจำในการทำงานในสำนักงานนั้นมีอยู่อีกไม่น้อยขอสรุปเอาว่า ในเจ็ดวันแรกนั้นงานข่าวของผมมีอะไรน่าสนใจและยังจำได้ก็เพียงข่าวเดียวเท่านั้นและเป็นข่าวใหญ่ เป็นข่าวที่ต้องประจันหน้ากับนักข่าวพิมพ์ไทยชนิด “ไม่มองหน้ากัน” เลยทีเดียวข่าวที่ว่านี้คีอ ข่าวนางพยาบาลฆ่านายแพทย์หนุ่มตายที่โรงพยา-บาลจุฬาลงกรณ์ ผมได้ข่าวนี้ที, ร.พ.กลาง ตัดสินใจเดินทางไปทันที...เมื่อไปถึงที่โรงพยาบาลจุฬาฯ นั้น ผมได้เห็น “พิมพ์ไทย” อยู่ที่นั่นแล้ว เท่าที,รู้จักก็คือคุณพหล หงสกุล ช่างภาพผู้เคยไปบ้านผมพร้อมกับ ม.ล.ต้อยชุมสาย และคุณไชยยงค์ เครื่องบันทึกเสียงราคาถูก  ชวลิต ที่ยังเป็นช่างภาพอยู่ โดยบุคคลทั้งลามบอกผมในเวลานั้นว่า “เดินสายมาเยี่ยมเยียนนักข่าวท้องถิ่น” และดูเหมือนจะมี “นายรำคาญ” ร่วมมาด้วยเพราะตอนที่ ม.ล.ต้อยขอตัวเข้าห้องล้วมซึ่งบ้านที่อยู่สะพานหลวงจะมีล้วมลักษณะเมื่อถ่ายก็จะหล่นในเลน พอนํ้าทะเลหนุนก็จะพัดเอาออกไป ม.ล.ต้อยหายไปพักหนึ่งเมื่อเดินกลับมานั้นปรี่ไปหาคุณประหยัด ศ.นาคะนาท หรือ “นายรำคาญ” ว่า “ผมนึกชื่อเรื่องออกแล้วชื่อนั้าลึกเป็น1ไง ดีไหม”


เครื่องบันทึกเสียง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น