วันอังคารที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2558

เริ่มใช้งานเครื่องอัดเสียงด้วยคู่มือที่ทันสมัย


                                                 




ทั้งหมดจากพระรูปนี้’’ ให้รู้สึกตื่นเต้นอย่างไงพิกล เพราะไม่เคยได้คุยกับมือปีนซึ่งหน้ามาก่อนเลย แต่คราวนี้จะพบกันจะๆ อีกอย่างอยากดูหน้าตารูปร่างเหี้ยมเกรียมโหดอย่างที,คิดไว้หรือไม่ ซึ่งมารู้ภายหลังท่านเปาคนดับดิ้นมาเป็นสิบเกือบครึ่งชั่วโมงเจ้าแก้วศิษย์ก้นกุฏิหลวงพี่ทองสุข หรืออีกนัยหนึ่งบุตรบุญธรรม ก็เดินนำหน้าพระรูปหนึ่ง รูปร่างสูงใหญ่ผิวขาวสะอาด ใบหน้ารูปไข่คางมนเล็กน้อย นัยน์ตาวาวแจ่มใสบอกอาการสดชื่น ผิดกับที่ผมคาดเดา สีหน้าดุผิวคงดำปี ครั้นเห็นใกล้ๆ ไม่บ่งบอกอาการโหดร้ายเลยลักนิดหากเป็นฆราวาสเหมาะเป็นนักแสดงมากกว่า เครื่องอัดเสียงนำเข้า ทั้งกืเยาอยู่ในการสำรวมเรียบง่าย ท่านก้าวเข้าระเบียงกุฏิ หลวงพี่ทองสุขเชื้อเชิญให้นั่ง พร้อมแนะนำผม“นิมนต์เลยท่านสิน นี่โยมหนอมสนิทชิดเชื้อกันมานานแล้ว ชอบค้นคว้าเกี่ยวกับเรื่องบาปบุญคุณโทษ ถามผมเสมอ มีจริงหรือไม่” รีบยกมือไหว้พระสิน เมื่อท่านนั่งเรียบร้อยบนเก้าอี้ไม้ไผ่ข้างหลวงพี่ทองสุข ท่านยิ้มจนห็นรอยบุ๋มที่แก้มสองข้างตอบรับ “เจริญพรโยม” จึงเริ่มขึ้นก่อน “ท่านบวชนานแล้วหรือครับ” “สองพรรษาจ้ะ” พระสินตอบ ผมถามยิ้มๆ “สบายดีกว่าเป็นฆราวาสไหม” ท่านพยักหน้าช้าแล้วบอก “อ๋อแน่นอน สบายกว่ามากทีเดียว” ก็ถามด้วยยังไม่กระจ่าง อัดเสียงเทป  “แสดงว่าท่านยังไม่สบายที่สุดละซีคงมีทุกข์อยู่บ้าง ใช่ไหมครับ” ที่ถามไปอย่างนั้นเพราะจากคำพูดของท่านสินที่ว่าสบายขึ้นมากก็แสดงถึงว่า ยังมืสิ่งใดเคลือบแฝงอยู่กับจิตท่านพยักหน้ารอยยิ้มที่มุมปากเมื่อครู่หายไป เอ่ยตอบคำถามจากผม

“จริงของโยม ฉันยังมีทุกข์ภาพที'ฝานมาติดตาติดใจแกะออกยากเหลือเกิน”
ผมโพล่งปาก “ฆ่าคนน่ะหรือครับ”พระสินอดีตมือปีนไม่ตอบ พยักหน้าเล็กน้อย แล้วหันทางหลวงพี่ทองสุข เหมือนละอายใจที่ไม่สามารถปลดเปลื้องความทุกข์ออกจากหัวใจได้พระเจ้าของกุฏิพูดขึ้นเหมือนเปิดโอกาส “เอา คุยกันตามสบายนะ อาตมา ทำกิจค้างอยู่ตั้งแต่เมื่อวาน” หลวงพี่พูดจบลุกขึ้นเดินเข้าด้านในแล้วปิดประตูสนิทพระสินมองตามจนท่านลับตา จึงหันมาทางผม ได้สนทนากันต่อ โดยถามท่านไปตรงๆ เพราะเวลามีน้อย เกรงจะมืดเสียก่อนไม่อยากขับรถกลับตอนกลางคืน “ท่านเป็นมือปีนรันจ้าง”พระสินตอบห้วนลันแต่ค่อย “โซ'” ผมได้ซัก “เพราะเหตุใดหรือครับ ถ้าจะกรุณาให้ผมได้ทราบไว้เป็นทานบ้าง มันคับข้องใจ  เครื่องอัดเสียงราคาถูก ถูกปีบคั้นหรือจงใจเพราะได้เงินมาก” สังเกตพระสินไม่มีอาการวิตกกับคำถามที่ผมยิงออกไป แต่กลับดูว่าท่านเต็มใจเล่าด้วยซํ้า เริ่มเรื่องให้ฟังด้วยใบหน้ายิ้มละไม เหมือนคิดว่าได้ใช้กรรมไปบ้างแล้ว

“เมื่ออาตมาอายุสิบสี่ คบเพื่อนเกเร มากหน้าหลายคน มีทั้งลักเล็กขโมยน้อย ชกต่อยกันตามป้ายรถเมล์ เรื่อยเข้าไปจนถึงในห้างสรรพสินค้าต่างไม่คิดรื่าเรียนละตอนนั้น บางครั้งใช้ปีนที่ทำขึ้นเอง ยิงใสิกันจนเห็นเป็นเรื่องปกติ ถูกจับไปอยู่บ้านคัดลันดาน ก็ไม่ยอมเข็ดหลาบ ออกมาก่อเรื่องทะเลาะวิวาทกันอีก พ่อแม่ต้องลำบากหาเงินเพื่อวิ่งเต้นให้โทษเบาหรือพ้นผิดล้วนต้องเสียดอกเบี้ยนอกระบบแพงๆ ทั้งนั้น” ท่านหยุดยกนํ้าชาขึ้นจิบผมเลยถือโอกาสขัดจังหวะ “ท่านถูกจับหลายครั้งไหมครับ”ท่านวางถ้วยน้ำชา ยกนิ้วมือเหมือนลูกเสือทำความเคารพขึ้นพร้อมตอบ “สามครั้ง”

เครื่องอัดเสียง

วันพฤหัสบดีที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2558

การพูดจาสุภาพเรียบร้อย และ การไหว้ คือขนบธรรมเนียมประเพณีที่สืบต่อกันมาช้านาน


                                               


                              

เล่ากันต่อมาจนรูภาวรรณนั้นเป็นครูสอนรำไทยและสอนดนตรีไทยอยู่ที่โรงเรียนระดับประถมแห่งหนึ่งในย่านนั้นต่อมาคุณประภาวรรณก็ถูกทักจากร่างทรงผู้หนื่งว่าตนมีองค์หากถือศีลแล้วไปรับขันธ์ 5 ไม่นานก็จะเป็นร่างทรงได้คุณประภาวรรณชอบในเรื่องนี้ เธอชอบไปตามที่ต่างๆ ที่มีการทรงเจ้า ทั้งๆ ที่ชีวิตเธอก็ไม่มีปัญหาหนักหนาใดๆ ที่จะอยากให้เจ้าที่มาเข้าทรงช่วยคลี่คลายรู้กันเพียงว่าตอนรุนสาวเธอมีแฟนเป็นนายตำรวจผู้หนึ่ง เครื่องอัดเสียงราคา รักกันเป็นปีๆ จึงเพิ่งรู้ว่าตำรวจผู้'นั้นมีลูกมีเมียแล้วคุณประภาวรรณจึงถอนตัว และก็ไฝเคยมีแฟนอีกเลย เพราะรักคนแรกมากและก็เสียใจมากจนเข็ดผู้ชายก็ว่าได้

แล้วคุณประภาวรรณก็เริ่มตั้งตำหนักของตนเองและเปิดตัวเป็นร่างทรงของพระแม่อุมา มเหสีของพระศิวะบ้าง เป็นร่างทรงกุมารน้อยบ้าง และยังเป็นร่างทรงเจ้าแม่กวนอิมอีกด้วยเวลาเจ้าลงมาประทับทรง เสียงของคุณประภาวรรณจะเปลี่ยนไปจากเสียงหนักๆ ห้วนๆ เหมือนสาวชาวใต้ก็จะกลายเป็นเสียง
ทุ้มนุ่มนวล ถ้าเข้าทรงกุมารก็จะมีเสียงเล็กแหลม ถ้าเข้าทรงพระแม่อุมาก็จะรำแขกได้ และพูดภาษาแขกได้ชาวบ้านพากันเชื่อถือเพราะตัวจริงนั้นคุณประภาวรรณเสียงตำและออกทองแดงหรือออกสำเนียงใต้ผสมใน อัดเสียงในที่ประชุม โทนเสียงนิดๆ แต่ทำไมตอนเข้าทรงไม่มีพูดเหน่อใต้เลย!และอีกประการหนึ่งก็เป็นเรื่องของเงินทอง คุณประภาวรรณไม่ได้เรียกเงินทองมากเลย มีค่าดอกไม้ธูปเทียนเป็นค่าครูเพียงถาดละ 29 บาทเท่านั้นแต่ชาวบ้านบางคนก็ทำบุญใส่กล,องรับบริจาคเป็นร้อย เพราะศรัทธาว่าแม่นยำนักเวลาใครมีเรื่องทุกข์ร้อนมาหา เจ้าแฝก็จะให้คำแนะน่าได้ดี เมื่อคนน่าไปปฏิบัติแล้วก็ว่าได้ผลเวลาคนมาถามว่าจะทวงเงินได้สำเร็จไหม ถ้าเจ้าแม่ว่าสูญ ก็ปรากฏว่าสูญจริงๆ

เจ้าแม่นั้นทั้งดูดวงชะตา และใบ้เลขเด็ดอีกด้วยเคยมีคนตั้งข้อสังเกตกันว่า คนที่ทำงานสบายๆ แล้วได้เงินดีไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยนักนั้น คงจะเป็นเพราะทำบุญไว่ไม่น้อยในชาติปางก่อนดังนั้นชาตินี้เมื่อทำกรรมอะไรไว้ กรรมจึงยังสนองตอบใส่ตัวไม่ทัน เพราะยังมีบุญหนุนนำอยู่บ้างแต่การหลอกลวงเงินทองของผู้คน ตั้งตนเป็นเจ้าผู้มีฤทธิ้แล้วหลอกให้คน อัดเสียงขนาดเล็ก ไปแก้เคล็ดอย่างนั้นอย่างนี้ก็ถือว่าเป็นการทำบาปทำกรรมที่ไม่ดี และกรรมนี้ก็ย่อมจะส่งผลทันตาในชาตินี้คุณประภาวรรณเป็นร่างทรงได้ 6 ปี ก็แต่งงานกับทหารพ่อม่ายลูกติดคนหนึ่ง และก็ยังคงเปิดบ้านเป็นตำหนักทรงเจ้าเช่นเดิม2 ปีต่อมาคุณ.ประภวรรณ,คลอ๑ลูกสาว แต่ลูกสาวนั้นเป็นเด็กปัญญาอ่อน แมโตจนอายุ 6-7 ขวบก็ยังเป็นเหมือนเด็ก 1-2 ขวบ ที่พ่อแม่ต้องคอยดูแลตลอดเวลาสามีคุณประภาวรรณเริ่มไม่ค่อยกลับบ้าน ต่อมาก็รู้กันว่าไปมีเมียน้อยอยู่อีกแห่งหนึ่งคุณประภาวรรณเคยเป็นผู้หญิงเรียบร้อยสุภาพ ก็เปลี่ยนแปลงกลายเป็นคนอารมณ์หงุดหงิดง่าย จนญาติๆ 2 คนที่เคยมาอยู่ช่วยเป็นลูกศิษย์เจ้าแม่ทนไม่ไหวต้องหนีกลับไปอยู่ใต้
ความทุกฃโจและปัญหาชีวิตทำให้เธอเข้าทรงไม่ได้อีก ต้องเอาลูกไปให้สถานสงเคราะห์เลี้ยง แล้วตัวเองก็หนีไปบวชชีบวชได้เพียงปีเดียวจิตใจที่ยํ่าแย่ก็คลี่คลาย คุณประภาวรรณสึกออกมาเป็นครูอีกครัง และรับลูกกลับมาเลียงเองเมื่อซาวบ้านบางคนเอ่ยถาม“ทำไมคุณไม่เข้าทรงอีกล่ะ มาเป็นครูเอาตอนอายุย่าง 50 แล้วมันลำบากนะ"“นั่นนะอี ตอนนี้คุณเป็นม'าย คุณก็น่าจะเข้าทรงอีกนะ เพราะไม่มีภาระนัก"
คุณประภาวรรณถอนใจเฮือกใหญ่ก่อนตอบเบาๆ

เครื่องอัดเสียง