วันอังคารที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2559

ย้อนรอยประวัติสาสต์ เมืองกาญจนบุรี


                         



 เมืองกาญจนบุรีเป็นผีทหารต่างชาติ ทีเสียชีวิตจากการสู้รบและสร้างรางรถไฟไปย้งประเทศพม่าในสงครามโลกครั้งที่สอง ศพพวกเขาถูกนำมาฝังที่สุสานของชาวคริสต์มืไม้กางเขนเป็นส้ญล้กษถเของคริสต์ศาสนาผู้เขียนไปตระเวนทำข่าวที่จังหวัดกาญจนบุรีและบางอำเภอได้มีชาวบ้านมาเล่าถึงความเฮี้ยนของผีให้ฟัง แต่ละคนมีประสบการณ์ที่โดนผีหลอกแตกต่างกันไป เพราะเหตุเกิดขึ้นต่างกรรมต่างวันและเวลา และต่างสถานที่ด้วย จะว่ากันโดยภาพรวมแล้วขึ้นซื่อว่าผี มีความเฮี้ยนน่าเกลียดน่าขยะแขยงทุกตนและชาวบ้านที่เคยโดนผีทหารฝรั่งในสุสานคริสต์หลอก มีอาชีพปันสามล้อรับจ้างเล่าว่า ตลอดเวลา ที่ผู้เล่าปันสามล้อผ่าน สุสานฝรั่งยามกลางคืน มักจะได้กลิ่นเหม็นสาบสาง คล้ายสัตว์
ตายที่เน่ามานาน เครื่องอัดเสียงราคา ลอยมากับสายลม จนผู้เล่าต้องกลั้นลมหายใจไว้ปินใจตัวเองเร่งผ้เท้าปันสามล้อไปให้พ้นจากสุสานฝรั่งแห่งนี้ตอนกลางคืนยามวิกาล ใครผ่านสุสานฝรั่งมักจะเจอดีโดนผีฝรั่งหลอก และผู้เล่าเป็นเหยื่ออีกรายที่โชคร้ายโดนผีทหารฝรั่งหลอกตอนประมาณ ๕ ทุ่มเศษ ขณะกำลังปันสามล้อพาผู้โดยสารสองคนเป็นฝรั่งชาวต่างชาติไปส่งที่จุดหมาย ช่วงที่จอดรับชาวฝรั่งนั้นทั้งสองแต่งตัวดูดี ครั่นมาถึงสุสานทหารนิรนาม ที่เสียชีวิตในสงครามเอเชียมหาบูรพา (สงครามโลกครั่งที่ ๒) ฝรั่งสองคนหน้าตามอมแมมเสื้อผ้าขาดวิ่น มีเลือดเกรอะกรังตามเสื้อตามตัวบอกให้ผู้เล่าจอดรถสามล้อ

ผู้เล่าเผยว่า พอฟังภาษาฝรั่งออกบ้างเล็กน้อย จึงรีบเบรกรถสามล้อคู่ชีพท้นทีวิทยาการคอมพิวเตอร์ ฝรั่งอีกคนยื่นเงินแบงก์ร้อยมาให้ ฝรั่งรายนั้นยังโบกมือไม่เอาเงินทอนจากผู้เล่าด้วย แกนึกกระหยิ่มใจที่ได้เงินจากฝรั่งตั้งร้อยบาท ก่อนจะปันสามล้อผละไปจากที่นั้น แต่อดไม่ได้ที่จะหันหลังกลับเหลียวไปมองดูฝรั่งสองคนจะไปไหน เพราะละแวกนี้ไม่มีโรงแรมที่พ้กเลย ไหงจึงพากันมาลงกลางคันที่สุสานทหารนิรนามต่างชาติทั้งที่ตกลงจะให่ไปส่งที่สะพานข้ามแม่นั้าแควผู้เล่าถึงกับสะดุ้งโหยง เห็นฝรั่งสองคนเดินหายเข้าไปทางประตูสุสานทหารนิรนาม ซึ่งประตูสุสานไดีปิดลงตั้งแต่ ๖ โมงเย็นแล้ว โดยทางสหประชาชาติ จะจ้างคนไทยเป็นผู้เผีาดูแลสุสานแห่ง นี้ตลอด ๒๔ ชั่วโมง ประตูสุสานปิดแน่นหนา แต่ทำไมฝรั่งสองคนนั้นเดินเข้าไปได้อย่างน่าฉงน ด้วยความสงสัยผู้เล่า จึงเลี้ยวรถสามล้อปันย้อนศรกลับมาที่สุสาน ซึ่งอยู่ห่างกันแค่ ๕-๖ เมตรเท่านั้นปันรถสามล้อมาถึงประตูสุสานแกยังเห็นประตูปิดสนิทอยู่จึงลงจากรถสามล้อลงมายืนที่ริมรั้วมองเข้าไปในสุสาน

ผู้เล่าถึงกับผงะตกใจหน้าซีดเหลืองเหมือนไก่ต้ม เห็นฝรั่งสองคนเดินป้วนเปียนกัมๆ เงยๆ ตูอะไรที่หลุมศพ เมื่อฝรั่งเงยหน้าขึ้นหันมามองผู้เล่า เครื่องอัดเสียงยี่ห้อไหนดี  ยังยกมือโบกใหัผู้เล่าอีกด้วย ยุ่งแล้วละสิ! ฝรั่งโรคจิตหรือฝรั่งบ้ากันแน่ ที่มาเดินท่อมๆ อยู่ในสุสาน ที่เต็มไปด้วยหลุมฝังศพทหารนิรนามในยามวิกาลตอนกลางคืนผู้เล่าคิดในใจว่า ฝรั่งสองคนนี้ถ้าจะไม่ใช่คน เมื่อไม่ใช่คนแล้วมันต้องเป็นผีแน่ คิดได้เช่นนี้สมองสั่งงานให้เผ่นไปจากที่นั้น ก่อนที่จะโดนผีฝรั่งหลอกมากกว่านี้ ผู้เล่ารีบหันหลังกึ่งวิ่งมาขึ้นคร่อมอานรถสามล้อ ก่อนจะออกแรงปันรถสามล้อคู่ชีพเผ่นหน้าตั้ง ด้วยใจเต้นระทึกเขย่าขวัญครั้นมาถึงบ้านเอารถสามล้อจอดใต้ชายคา ก่อนจะเปิดประตูมุดเข้าบ้านหย่อนกันลงนั้งบนพื้น ควักเงินในกระเป๋าที่ได้จากค่ารับจ้างผูโดยสารวันนี้เพื่อจะนับว่าได้เงินเท่าไรผู้เล่าถึงกับตกใจผงะอ้าปากค้าง เมื่อเงินที่ฝรั่งให้เป็นค่าโดยสารมานั้นเป็นกระดาษเปล่าๆ แกไม่เชื่อสายตานึกว่าตัวเองตาฝาด หยิบเงินแบงก์ร้อยที่กลาย อัดเสียงเพลง เป็นกระดาษขาวขึ้นมาพิจารณาตูสิ่งที่ปรากฏสายตาผู้เล่าเป็นกระดาษเปล่าจริงๆไม่ใช่เงินแบงก์ร้อยตามที่เห็นเมื่อแน่ใจว่าไม่ใช่เงินแบงก์ร้อยผู้เล่ารีบโยนกระดาษแผ่นนั้นทิ้ง ใจคอไม่สู้ดีเมื่อชายฝรั่งสองคนท่าทึเป็นผู้โดยสารหลอกให้แกมาส่ง ที่ไหนได้ฝรั่งสองคนที่แท้เป็นผี ท้าเอาผู้เล่าขนหัวลุกเกรียว ขณะนั้นหูแกยังแว่วได้ยินเสียงหมาหอนดังมาแต่ไกล เห็นท่าไม่ดีรีบมุดมุ้งเข้านอนกอดเมีย หากยังนั่งทะเล่อทะล่าอยู่คนเดียว ดีไม่ดีผีฝรั่งตานั้าข้าวมานั้งคุยในห้องด้วย มีหวังแกหัวใจช็อกตายแน่


เครื่องอัดเสียง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น