วันพฤหัสบดีที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2558

การพูดจาสุภาพเรียบร้อย และ การไหว้ คือขนบธรรมเนียมประเพณีที่สืบต่อกันมาช้านาน


                                               


                              

เล่ากันต่อมาจนรูภาวรรณนั้นเป็นครูสอนรำไทยและสอนดนตรีไทยอยู่ที่โรงเรียนระดับประถมแห่งหนึ่งในย่านนั้นต่อมาคุณประภาวรรณก็ถูกทักจากร่างทรงผู้หนื่งว่าตนมีองค์หากถือศีลแล้วไปรับขันธ์ 5 ไม่นานก็จะเป็นร่างทรงได้คุณประภาวรรณชอบในเรื่องนี้ เธอชอบไปตามที่ต่างๆ ที่มีการทรงเจ้า ทั้งๆ ที่ชีวิตเธอก็ไม่มีปัญหาหนักหนาใดๆ ที่จะอยากให้เจ้าที่มาเข้าทรงช่วยคลี่คลายรู้กันเพียงว่าตอนรุนสาวเธอมีแฟนเป็นนายตำรวจผู้หนึ่ง เครื่องอัดเสียงราคา รักกันเป็นปีๆ จึงเพิ่งรู้ว่าตำรวจผู้'นั้นมีลูกมีเมียแล้วคุณประภาวรรณจึงถอนตัว และก็ไฝเคยมีแฟนอีกเลย เพราะรักคนแรกมากและก็เสียใจมากจนเข็ดผู้ชายก็ว่าได้

แล้วคุณประภาวรรณก็เริ่มตั้งตำหนักของตนเองและเปิดตัวเป็นร่างทรงของพระแม่อุมา มเหสีของพระศิวะบ้าง เป็นร่างทรงกุมารน้อยบ้าง และยังเป็นร่างทรงเจ้าแม่กวนอิมอีกด้วยเวลาเจ้าลงมาประทับทรง เสียงของคุณประภาวรรณจะเปลี่ยนไปจากเสียงหนักๆ ห้วนๆ เหมือนสาวชาวใต้ก็จะกลายเป็นเสียง
ทุ้มนุ่มนวล ถ้าเข้าทรงกุมารก็จะมีเสียงเล็กแหลม ถ้าเข้าทรงพระแม่อุมาก็จะรำแขกได้ และพูดภาษาแขกได้ชาวบ้านพากันเชื่อถือเพราะตัวจริงนั้นคุณประภาวรรณเสียงตำและออกทองแดงหรือออกสำเนียงใต้ผสมใน อัดเสียงในที่ประชุม โทนเสียงนิดๆ แต่ทำไมตอนเข้าทรงไม่มีพูดเหน่อใต้เลย!และอีกประการหนึ่งก็เป็นเรื่องของเงินทอง คุณประภาวรรณไม่ได้เรียกเงินทองมากเลย มีค่าดอกไม้ธูปเทียนเป็นค่าครูเพียงถาดละ 29 บาทเท่านั้นแต่ชาวบ้านบางคนก็ทำบุญใส่กล,องรับบริจาคเป็นร้อย เพราะศรัทธาว่าแม่นยำนักเวลาใครมีเรื่องทุกข์ร้อนมาหา เจ้าแฝก็จะให้คำแนะน่าได้ดี เมื่อคนน่าไปปฏิบัติแล้วก็ว่าได้ผลเวลาคนมาถามว่าจะทวงเงินได้สำเร็จไหม ถ้าเจ้าแม่ว่าสูญ ก็ปรากฏว่าสูญจริงๆ

เจ้าแม่นั้นทั้งดูดวงชะตา และใบ้เลขเด็ดอีกด้วยเคยมีคนตั้งข้อสังเกตกันว่า คนที่ทำงานสบายๆ แล้วได้เงินดีไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยนักนั้น คงจะเป็นเพราะทำบุญไว่ไม่น้อยในชาติปางก่อนดังนั้นชาตินี้เมื่อทำกรรมอะไรไว้ กรรมจึงยังสนองตอบใส่ตัวไม่ทัน เพราะยังมีบุญหนุนนำอยู่บ้างแต่การหลอกลวงเงินทองของผู้คน ตั้งตนเป็นเจ้าผู้มีฤทธิ้แล้วหลอกให้คน อัดเสียงขนาดเล็ก ไปแก้เคล็ดอย่างนั้นอย่างนี้ก็ถือว่าเป็นการทำบาปทำกรรมที่ไม่ดี และกรรมนี้ก็ย่อมจะส่งผลทันตาในชาตินี้คุณประภาวรรณเป็นร่างทรงได้ 6 ปี ก็แต่งงานกับทหารพ่อม่ายลูกติดคนหนึ่ง และก็ยังคงเปิดบ้านเป็นตำหนักทรงเจ้าเช่นเดิม2 ปีต่อมาคุณ.ประภวรรณ,คลอ๑ลูกสาว แต่ลูกสาวนั้นเป็นเด็กปัญญาอ่อน แมโตจนอายุ 6-7 ขวบก็ยังเป็นเหมือนเด็ก 1-2 ขวบ ที่พ่อแม่ต้องคอยดูแลตลอดเวลาสามีคุณประภาวรรณเริ่มไม่ค่อยกลับบ้าน ต่อมาก็รู้กันว่าไปมีเมียน้อยอยู่อีกแห่งหนึ่งคุณประภาวรรณเคยเป็นผู้หญิงเรียบร้อยสุภาพ ก็เปลี่ยนแปลงกลายเป็นคนอารมณ์หงุดหงิดง่าย จนญาติๆ 2 คนที่เคยมาอยู่ช่วยเป็นลูกศิษย์เจ้าแม่ทนไม่ไหวต้องหนีกลับไปอยู่ใต้
ความทุกฃโจและปัญหาชีวิตทำให้เธอเข้าทรงไม่ได้อีก ต้องเอาลูกไปให้สถานสงเคราะห์เลี้ยง แล้วตัวเองก็หนีไปบวชชีบวชได้เพียงปีเดียวจิตใจที่ยํ่าแย่ก็คลี่คลาย คุณประภาวรรณสึกออกมาเป็นครูอีกครัง และรับลูกกลับมาเลียงเองเมื่อซาวบ้านบางคนเอ่ยถาม“ทำไมคุณไม่เข้าทรงอีกล่ะ มาเป็นครูเอาตอนอายุย่าง 50 แล้วมันลำบากนะ"“นั่นนะอี ตอนนี้คุณเป็นม'าย คุณก็น่าจะเข้าทรงอีกนะ เพราะไม่มีภาระนัก"
คุณประภาวรรณถอนใจเฮือกใหญ่ก่อนตอบเบาๆ

เครื่องอัดเสียง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น